Post Detail

กาชาปองธรรมดา ที่ดูแล้วไม่ธรรมดา กับพัฒนาการที่ก้าวกระโดดมากขึ้นทุกที

6/3/2017

FIGURE1962

ข่าวของเล่นมีออกมามากมาย ส่วนใหญ่ผมจะไม่ค่อยหยิบมาเขียนเป็นหัวข้อโพส (เพราะสินค้ามันเยอะมากจนเขียนรีวิวคนเดียวไม่ไหว) โดยเฉพาะสินค้าจำพวกกาชาปองซึ่งเป็นสินค้าขนาดจิ๋วที่ดูไม่ค่อยโดดเด่นนัก แต่พอเห็นสินค้าชุดนี้ของกาชาปองแล้ว อดไม่ได้ที่จะเอามาเขียนโพสขึ้นมา

สินค้าชุดนี้เป็นสินค้ากาชาปองที่ชื่อ "Ultimate Luminous Ultraman Series" (แปลไทยก็คือ ซีรีส์อุลตร้าส่องแสง) มีความสูงประมาณ 122 มิลลิเมตร ถึงแม้จะเป็นแค่ตุ๊กตาตัวเล็ก ๆ แต่รายละเอียดและสัดส่วนทำออกมาได้เป๊ะปังอลังการไม่แพ้ตัวใหญ่ ๆ เลย โดยสินค้าซีรีส์นี้ อยู่ภายใต้การควบคุมผลิตของคุณ โมริอุชิ ซึ่งทำงานอยู่แผนกเว็นเดอร์ของบันได

ภาพถ่ายข้างบนถ้าไม่บอกว่าเป็นกาชาปอง แต่บอกว่าเป็นโมเดลขนาดใหญ่ ก็คงมีคนเชื่อนะ
แต่พอเห็นภาพข้างล่างนี้แล้ว ก็ต้องยอมรับจริง ๆ ว่าจิ๋วแต่แจ๋ว

จุดเด่นของสินค้ากาชาปองชุดนี้ก็คือ มันมีความละเอียดสมจริง แถมยังเป็นฟิกเกอร์ที่สามารถเปิดแสงได้และราคาไม่แพง สนนราคาก็อยู่ที่ชิ้นละ 500 เยนเท่านั้นเอง

ซึ่งจริง ๆ แล้ว ก็เคยมีการผลิตอุลตร้าที่เปิดแสงได้มาก่อน แต่ว่าสินค้านั้นลักษณะดูเหมือนของเล่น(ไม่สมจริง) แถมราคาก็แพงมาก

โดยสินค้าซีรีส์ "Ultimate Luminous" นั้นเริ่มเปิดรับออเดอร์ตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2016 มีสินค้าชุดแรกที่จำหน่าย จะมีอุลตร้าอยู่ 2 ตัว นั่นคือ อุลตร้าแมน (B type) และ อุลตร้าแมนไทก้า (multi type) พร้อมกิมมิค "ตึกคอมเพล็กซ์" ที่เปิดแสงได้เหมือนกันกับอุลตร้าแมนด้วย

ภาพสินค้าชุดแรก

ตึกคอมเพล็กซ์พร้อมชุดแสงไฟ

เวลาเปิดไฟ ก็จะเห็นเหมือนตึกที่มีคนเปิดไฟอยู่

หลังจากเริ่มซีรีส์แรกออกมา ก็ได้รับความนิยมจนเริ่มพัฒนาซีรีส์ชุด 2 ตามออกมา ซึ่งในชุดนี้จะมีอุลตร้าแมนเซเว่น / อุลตร้าแมนไดน่า และอพาร์ทเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นเซ็ตคล้าย ๆ กันกับชุดแรก (เปิดไฟได้ตามคอนเซ็ปต์ของซีรีส์นี้)

หลังจากนั้นทาง Bandai ก็ผลิตสินค้าชุดพิเศษที่ใช้ไฟ LED ที่หรูหราขึ้น ออกมาดูดเงินแฟน ๆ เป็นอุลตร้าแมนออร์บกับอุลตร้าแมนไกอา (อันนี้ไม่นับเป็นชุดที่ 3 นะ แต่ถือเป็นชุดพิเศษ)

สำหรับสินค้าชุดที่ 3 ซึ่งตอนนี้กำลังทำกันอยู่ก็จะเป็นเซ็ต 3 ชิ้นเช่นเดิม โดยงานนี้มีอุลตร้าแมนแจ๊คและซีโร่พร้อมตึก (สงสัยจะตึกเดียวกันกับ 2 ชุดแรก) ตอนนี้ปล่อยภาพมาแต่งานดิบแบบยังไม่ได้ลงสี

ใครที่ไม่เคยซื้อสินค้าซีรีส์นี้ เห็นต้นแบบงานดิบด้านหลังแล้ว คงจะเริ่มเข้าใจแล้วใช่ไหม ว่ามันเปิดไฟยังไง? ซึ่งคุณโมริอุชิ ได้พูดให้ฟังว่า จริง ๆ แล้วสินค้าจำพวกกาชาปองนั้นมีข้อจำกัดที่ "ขนาด" และไฟ LED กับแบ็ตเตอรี่ก็มีราคาที่ค่อนข้างสูง แล้วเวลาเปิดไฟนั้น มันจะต้องส่องแสงทั้งไฟตรงหน้าอกและดวงตา ซึ่งตอนนั้นเขาก็คิดว่าแบบนี้สงสัยคงต้องติดไฟ 2 ดวง ดังนั้นการผลิตสินค้านี้ให้ออกมาในราคา 500 เยนได้นั้ันเป็นงานที่ต้องมาตีโจทย์ให้แตกจริง ๆ ว่าจะทำอย่างไร

สุดท้าย เขาก็ได้ไอเดียมาจากฟิกเกอร์ซีรีส์ Ultraman super warrior Gekiden ซึ่งก็คือสินค้าอุลตร้าที่มีส่วนเกราะติดตั้งเพิ่มเข้าไป ตามภาพข้างล่างนี้

สินค้าชุดนี้ถ้าพลิกมาดูด้านหลังจะมีส่วนที่เป็น "ส่วนใส"

เมื่อเปิดแสงจากด้านหลังตุ๊กตา ก็จะเห็นไฟที่ตาและอกของตุ๊กตาพร้อมกัน (ด้วยไฟเพียงดวงเดียว)

ซึ่งเมื่อคุณโมริอุชิได้เห็นตัวอย่างนี้ เขาก็เกิดไอเดียในการที่จะนำไฟมาใช้เพียงดวงเดียว แต่เปิดแล้วให้แสงสว่างทั้งตรงหน้าอกและดวงตาของอุลตร้า และเริ่มลงมือทำกับตัวฟิกเกอร์จริง ๆ เพื่อทดสอบ

ผลที่ได้ก็คือ การใส่ไฟไว้ที่ด้านหลังของตุ๊กตาแบบนี้ เมื่อเปิดไฟแล้ว ก็จะมีไฟออกมาอย่างที่เขาหวังเอาไว้

มาถึงจุดนี้ การผลิตสินค้าชิ้นละ 500 เยนก็ยังทำไม่ได้อยู่ดี เพราะถ้ามีทั้งไฟ LED และถ่านรวมลงไปในฟิกเกอร์ ก็จะทำให้ราคาสินค้าแพงเกินไปอยู่ดีนั่นเอง

เขาแก้ปัญหานี้ด้วยการเพิ่ม "ตึก" เข้าไป ซึ่งถ้ารวมทั้งเซ็ตแล้ว ราคาเฉลี่ยของสินค้าจะตกอยู่ที่ชิ้นละ 500 เยน (อ่านถึงตรงนี้ก็เพิ่งเข้าใจ ว่า 500 เยนต่อชิ้นนั้นหมายถึงต้องซื้อทั้งเซ็ตนะ หาร 3 จะเหลือชิ้นละ 500 เยน ถ้าซื้อแค่อุลตร้า คงมีแค่ตัวอุลตร้า ไม่มีเซ็ตไฟ LED ให้ แต่ไฟ LED มาพร้อมกับ "ตึก")

ซึ่งคุณโมริอุชิ ได้เคยทำแบบสอบถามเกี่ยวกับสินค้าออกมาก่อนว่า ถ้าเขาทำตึกออกมาด้วยจะดีไหม ผลตอบรับเหมือนเหวี่ยงกลับมาว่า หากมีตึกอยู่ด้วย ก็ทำให้ดูเป็นฉากไดโอราม่าที่สวยดี ทำให้สินค้าดูสมจริงมากขึ้น โดยเฉพาะถ้ามันส่องแสงได้ทั้งอุลตร้าและตึก จะดูมีมิติมากขึ้นเลยทีเดียว

และเพื่อการผลิตตัวตึกให้มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด (จะได้ชดเชยไปกับต้นทุนของตุ๊กตา) ก็ต้องมานั่งคิดอีกว่าจะทำยังไงให้ออกมาสวยและผลิตง่าย สุดท้ายก็เลยแยกส่วนของกระจกออกมาเป็นพลาสติก และทำตัวตึกสวมทับเข้าไป โดยมีไฟ LED เป็นฐานอยู่ด้านล่าง ซึ่งผลลัพท์ที่ได้ ก็ค่อนข้างถูกใจเลยทีเดียว

หลังจากอ่านบทสัมภาษ์ต่าง ๆ ของคุณโมริอุชิแล้ว ก็เลยรู้สึกว่า ขนาดของเล่นชิ้นเล็ก ๆ ก็ยังต้องมีการคิดค้นและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา หาอะไรที่แปลกใหม่ออกมาดูดเงินจากแฟน ๆ อย่างต่อเนื่อง เวลาที่เรามองสินค้าเล็ก ๆ อย่างกาชาปอง เรามักจะไม่ให้คุณค่ามันมากมายนัก แต่ถ้าเราได้รู้ถึงความใส่ใจและความพยายามในการคิดที่จะสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ออกมาแบบนี้ มันก็ทำให้เราทึ่งไปกับพัฒนาการของตุ๊กตาเหล่านี้จริง ๆ

ข้อมูลสินค้า

Ultimate Luminous Ultraman